อาเซียน คัพ ยังคงเป็นประเด็นจนถึงจบทัวร์นาเมนต์สำหรับ ปาร์ค ฮัง-ซอ ผู้จัดการทีมชาวเกาหลีใต้ กับภารกิจการคุมทีมชาติเวียดนาม สำหรับเพื่อการแข่งฟุตบอลรายการ เอเอฟเอฟอาเซียนคัพ 2022 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา
โดยผลการแข่งขันอย่างที่รู้กันไปแล้วว่า “ทัพช้างศึก” ทีมชาติไทย เป็นฝ่ายเฉือน 1-0 ทำให้สกอร์รวมเอาชนะไปได้ 3-2 หยิบแชมป์ฟุตบอลอาเซียนคัพ 2022 ไปครอบครองได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นการได้แชมป์รายการนี้ ได้เป็นสมัยที่ 7 ในประวัติศาสตร์

อย่างไรก็แล้วแต่หลังจบเกม อาเซียน คัพ สื่อเวียดนามได้เปิดเผยภาพ
ผู้จัดการทีมฟุตบอลแดนโสมวัย 65 ปี ที่เดินปรี่เข้าไปหา จุมเป อิดะ ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่น เพื่อถามการตัดสินเกม ภายหลังจากไม่ชอบใจที่เห็นว่า เป่าให้ลูกทีมของเขา ไม่ได้เปรียบตลอดทั้งเกม จนกระทั่งในที่สุดแพ้ไป 0-1 แต่ว่าก็ไม่มีเหตุบานปลายอะไร
สำหรับเกมนัดนี้ถือได้ว่าเป็นการ ปฏิบัติหน้าที่ครั้งสุดท้ายสำหรับการคุมทีมชาติเวียดนามของ ปาร์ค ฮัง-ซอ เป็นนัดสุดท้าย ภายหลังที่สัญญา จะหมดลงในช่วงปลายเดือนนี้ ซึ่งตลอดการคุมทีมในช่วง 5 ปี ผู้จัดการทีมแดนโสม พาทีมคว้าชัยชนะอาเซียนคัพ 1 สมัย (ปี 2018), พาทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี คว้ารองแชมป์เอเชีย และพาทีมผ่านเข้าถึงรอบ 12 ทีมสุดท้ายคัดบอลโลก 2022

เหตุการณ์เหมือนเป๊ะ “ธีราทร” กับท่าฉลองทำประตู “เมสซี่” แต่ว่าทำบางคนเดือด
นับว่าเป็นจังหวะที่ถูกกล่าวถึงอย่างมาก กับท่าฉลองการทำประตูได้ของ ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมชาติไทย สำหรับการแข่ง ฟุตบอลอาเซียนคัพ 2022 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยภายหลังที่ ตัวรุกตัวเก่งกดประตูสุดสวยให้ “ทัพช้างศึก” เป็นฝ่ายออกนำ เวียดนาม 1-0 ในช่วงนาทีที่ 24 เจ้าตัว ก็วิ่งไปทำท่าดีใจกับท่า Siuuu ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตามสไตล์ ก่อนที่จะวิ่งไปกลางสนามแล้วทำท่าเอามือป้องที่หู
งานนี้ถึงกับทำให้ ปาร์ค ฮัง-ซอ โค้ชชาวเกาหลีใต้ เดือดหนักเดินออกมาชี้หน้าพร้อมกับฟ้องผู้ตัดสิน ให้ลงโทษหลังคิดว่าเจตนายุตน แต่สุดท้ายก็ไม่มีเหตุการณ์บานปลายแต่อย่างใด ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากการที่ โค้ชแดนโสม ชอบออกมากล่าวถึงแข้งไทยรายนี้อยู่ตลอด แถมได้บอกในงานแถลงข่าว ก่อนเกมว่ารู้ดีถึงความสามารถของ ธีราทร แต่ว่าจะสั่งลูกทีมตามประกบหนักกว่าเดิม รวมทั้งมีแผนการ รับมือเอาไว้แล้ว ไม่น่าเป็นห่วงอะไร
งานนี้ทำให้คนจำนวนไม่น้อยนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา เคยทำท่าป้องหูใส่ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังจากที่ถูกวิจารณ์ว่ามีจุดบอด และก็จะสั่งลูกทีมตามปิดตายเหมือนกัน
สำหรับเพื่อการครอบครองแชมป์ของ ทีมชาติไทย สำหรับการแข่งขันฟุตบอลอาเซียนคัพ 2022 ถือเป็นการหยิบแชมป์มาครอง ได้เป็นสมัยที่ 7 ในประวัติศาสตร์ และก็นับว่าสูงที่สุดที่ชาติ ในภูมิภาคในอาเซียนทำได้ หลังแข่งขันมาทั้งหมด 14 ครั้ง

โดนหมายหัวแล้ว “โค้ชปาร์ค” ลั่นสั่งลูกทีมปิดตายหนึ่งแข้งไทยหลังป่วนจัดเกมก่อน อาเซียน คัพ
ปาร์ค ฮัง-ซอ กุนซือชาวเกาหลีใต้ของ ทีมชาติเวียดนาม ที่เดินทางไปร่วมงาน แถลงข่าวก่อนเกม ที่จะพาลูกทีมลงสู่สนามดวลกับ ทีมชาติไทย ในการแข่งฟุตบอลรายการ เอเอฟเอฟ อาเซียนคัพ 2022 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ม.ค. ก่อนหน้าที่ผ่านมา
โดยในงาน โค้ชแดนโสมได้พูดว่า “ไม่ว่าจะเป็นเกมแรกหรือเกมสุดท้ายในการคุมทีม (หมายถึงว่านัดนี้จะเป็นนัดสุดท้ายสำหรับในการคุมเวียดนาม) ผมมักจะเตรียมพร้อมด้วยความคิดเดียวกันเสมอ นั่นคือทุ่มเทอย่างเดิม”
ขณะเดียวกันนี้เจ้าตัวยังได้ตอบสื่อถึงนักเตะตัวอันตราย ของทีมไทยว่า “หลายจังหวะที่อันตรายของพวกเขา มีเหตุมาจากนักฟุตบอลหมายเลข 3 (ธีราทร บุญมาทัน) เขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญ ที่ทำเกมให้ทีมชาติไทย”
“ในนัดก่อนช่วงครึ่งแรกแดนกลางของเรา ได้รับคำสั่งให้ตามประกบเขา ซึ่งก็ทำกันได้ดี แต่ครึ่งหลังก็มีจังหวะที่พลาดบ้าง แต่ว่ากับเกมนี้แน่ๆเรามีแผนในการรับมือกับเขาเหมือนเช่นเคย” โค้ชปาร์ค กล่าวอย่างมั่นใจ
สำหรับสถานการณ์ของ “ทัพดาวทอง” พวกเขาหวังที่จะบุกเอาชนะ ทีมชาติไทย หรือเท่ากันที่สกอร์มากกว่า 2-2 ในรอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง เพื่อโอกาสคว้าแชมป์
นายกล้ามั้ย “โค้ชปาร์ค” ท้า “มาโน” เปิดเกมบุกสู้เพื่อสมศักดิ์ศรีแชมป์อาเซียน
ฝ่ายจัดการแข่งฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน จัดแถลงข่าวก่อนที่จะมีการแข่ง รอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติเวียดนาม ตอนวันที่ 14 มกราคม 2566 เวลา 17.45 น. ที่ห้องแถลงข่าว สนามธรรมศาสตร์
ปาร์ค ฮัง-ซอ หัวหน้าคนฝึก ทีมชาติเวียดนาม บอกว่า “บางคนกังวลหลังจากเกมแรก เพราะว่าเวียดนามเสียเปรียบ แต่ว่าเรามาตรงนี้เพื่อชนะ เราพยายามทำเพื่อแฟนๆ ของเรา เราได้แข่งขันกับไทยมาหลายเกม ในปี 2018 ผมเอาชนะได้ ผมเชื่อเสมอว่า เราสามารถชนะทีมชาติไทยได้ และก็ผมกล่าวไปหลายคราวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเกมแรก หรือเกมสุดท้ายผมมักจะเตรียมเหมือนเดิม ทุ่มเทเหมือนเดิม”
“โดยเหตุนี้เกมนี้ผมอยากที่จะให้ ทีมชาติไทยเล่นอย่างดุดัน ด้วยการเปิดเกมบุก นั่นเป็นการพิสูจน์ว่าพวกเขาสมควร ได้รับชัย ไม่ใช่เพียงแค่เพราะว่าสองประตูที่ทำได้ที่ มี ดินห์ สเตเดี้ยม”
“ผมเชื่อว่าพวกเขาอาจไม่ต้องการเสมอ พวกเขามุ่งมั่นที่จะชนะ คว้าชัยชนะด้วยชัยที่มอบให้กับแฟนๆ ของเขา ผมไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรไทย ถึงใช้กองหลังตัวกลางสามคนในเลกแรก ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาพวกเขาใช้กองหลังสี่ตัว อาจเป็นเพราะความกดดันในเกมเยือน อาจเป็นเพราะเวียดนามทำให้พวกเขาเปลี่ยนไป หวังว่าในบ้านไทยจะใช้ 4 กองหลังเหมือนนัดที่แล้ว ถ้าเกิดไทยเล่นรุก เราก็เล่นรุกด้วย”
“ก่อนอื่น ผมอยากจะขอบคุณแฟนๆ ที่ เกาหลีใต้ บ้านเกิดของผม ในช่วงที่ผมทำงานในเวียดนาม ผมได้รับความสนใจ พวกเขาช่วยให้ผมเกิดกำลังใจสำหรับในการทำงาน ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ผมหวังว่าในอนาคต ผมจะไม่ได้ทำงานเป็นโค้ชอีกต่อไป ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนาม และเกาหลีจะยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้นไปอีก”